วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ผี เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ ห้องนอนมรณะ

กรอง เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องนอนผีแขวนคอ เหตุการณ์นี้มาผ่านกว่า 3 ปี แต่รับรองชาตินี้ทั้งชาติดิฉันไม่มีวันลืมแน่นอน

เหตุการณ์นี้ผ่านมาสามปีกว่าแล้วล่ะค่ะ แต่รับรองว่าชาตินี้ทั้งชาติดิฉันไม่มีวันลืมแน่ มันเป็นเรื่องสยดสยองสุดๆ เลยเชียว ตอนนั้นฉันอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 และเป็นเด็กกิจกรรมด้วยก็เลยมีเพื่อนฝูงเยอะแยะ แต่เพื่อนที่สนิทกันจริงๆ มีแค่ไม่กี่คนเอง หนึ่งในนั้นคือ “ปิ่น” 


ซึ่งคนอื่นอาจมองว่าหล่อนออกจะเพี้ยนๆ พิกล แต่สำหรับฉัน หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีมาก มีน้ำใจและน่าสงสารด้วย เพราะปิ่นเพิ่งสูญเสียพี่สาวสุดที่รักไปได้ไม่นาน ด้วยสาเหตุที่น่าสลดใจมากเชียว พี่ปูของปิ่นอายุเข้าเบญจเพสพอดีตอนที่เกิดเรื่องสยองขวัญ! ถ้าครอบครัวของปิ่นจะมีใครสักคนที่เพี้ยน ก็คงเป็นพี่ปูนี่แหละ ไม่ใช่ปิ่นหรอก เพราะพี่ปูต้องไปหาหมอและต้องกินยาเป็นประจำ ห้ามหยุดเด็ดขาด

ปิ่นว่าหมอบอกพี่ปูเป็นโรคซึมเศร้า และเมื่อฟังอาการแล้วฉันคิดว่าเธอน่าจะเป็นโรคไบโพลาร์นะ คืออารมณ์แปรปรวน เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแบบสุดขั้ว คือเดี๋ยวก็เศร้า เครียด หดหู่ เดี๋ยวก็ร่าเริงสุดขีด นอกจากนั้นยังเป็นคนขี้ระแวงแบบไม่มีเหตุผล บางทีก็เดือดดาลพาลทะเลาะกับพ่อแม่อย่างรุนแรงแทบบ้านแตก

แต่ถึงกระนั้น พี่ปูก็ยังรักน้องปิ่นมาก ไม่แตะต้องหรือพูดจาอะไรให้เสียใจเลย!

อยู่มาวันหนึ่ง พี่ปูผูกคอตายในห้องนอนของเธอเอง ไม่มีใครรู้จนบ่ายแก่ๆ แม่ต้องให้คนในบ้านมาช่วยกันงัดประตูเข้าไป แล้วก็พบพี่ปูผูกคออยู่ในตู้เสื้อผ้า ใบหน้าที่เคยสวยงามน่ารักกลับบวมพอง เขียวคล้ำ ดวงตาถลนออกมาและลิ้นสีดำจุกปากอย่างน่ากลัวที่สุด

“ตั้งแต่ฆ่าตัวตายไปวันนั้น พี่ปูก็สิงอยู่ในห้องตลอด ไม่ยอมไปผุดไปเกิด ไม่เชื่อก็ลองเข้าไปสิ ห้องนั้นจะเย็นยะเยือก ทั้งๆ ที่อากาศร้อนอบอ้าว และเราก็ไม่ได้เปิดแอร์ด้วย” ปิ่นเล่าอย่างน่าขนหัวลุกให้ฟัง “แม่นิมนต์พระมาทำบุญบ้านแล้ว แต่ปิ่นว่าวิญญาณพี่ปูยังไม่สงบ พวกเราในบ้านไม่เคยถูกผีพี่ปูหลอก แต่คนในซอยที่เขาลือกันแซดว่าเห็นพี่ปูยืนอยู่ตรงหน้าต่าง”

เราที่นั่งล้อมวงกันฟังอยู่ต่างมองหน้ากันอย่างเสียวสยอง แต่ก็ยังมีคนบ้าๆ อย่างฉันนึกอยากลองของไปดูห้องนั้น ว่ามันจะเยือกเย็นอย่างประหลาดจริงอย่างที่ปิ่นโม้หรือเปล่า?

แล้ววันหนึ่งที่เราเลิกเรียนตอนบ่าย เราก็ไปที่บ้านของปิ่นกันโดยมีตัวฉันกับเพื่อนอีก 4 คน บอกตรงๆ ว่าตัวฉันเองน่ะนั่งขนลุกไปตลอดทาง

พอถึงบ้านปิ่น เราก็ไปสวัสดีคุณแม่ที่กำลังเตรียมทำกับข้าว จากนั้นปิ่นบอกคุณแม่ว่าจะพาเพื่อนๆ ไปคุยบนห้อง

ห้องของปิ่นติดกับห้องพี่ปู และที่หน้าห้องพี่ปูก็มีผ้ายันต์ปิดไว้ เห็นแล้วเสียวสันหลังวาบเลยค่ะ ปิ่นบอกให้เราเงียบๆ ขณะผลักประตูเข้าไป ลมเย็นกลิ่นหอมเอียนๆ เหมือนดอกไม้แห้งโชยวูบออกมา และเมื่อก้าวเข้าไปอยู่ในห้อง เราทุกคนก็รู้สึกเย็นแปลกๆ จริงๆ ด้วย

ขณะที่เพื่อนๆ กำลังซึมซับความเสียวสยอง ฉันก็มองไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งตรงมุมห้อง ร่างเธอผอมบาง ผิวมืดๆ เป็นสีม่วงคล้ำทั้งตัว ผมยาวประบ่า สวมเสื้อยืดลึกลับที่ฉันแน่ใจว่าคือพี่ปู ลอยวูบเข้ามาหา มายืนอยู่ข้างหลัง…

ขณะที่ตกใจและช่วยตัวเองไม่ได้นั้น ฉันรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมารัดคอไว้แน่นจนหายใจไม่เข้า และเอามือตะกุยที่ลำคอ

ในความรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ นั้น เพื่อนๆ ร้องวี้ดว้ายชุลมุน ต่างตะโกนว่าผีเข้า…ผีเข้า! แม่ของปิ่นวิ่งโครมๆ ขึ้นบันไดมากับคนรับใช้ และเมื่อแม่ของปิ่นประคองฉันก็ปรากฏว่าฉันร้องไห้โฮ โดยมันไม่ใช่ตัวของฉันเลย!

ฉันร้องแบบคนหายใจไม่ออก และพร่ำขอโทษแม่ เสียงที่ออกมาจากลำคอของฉันก็ไม่ใช่เสียงตัวฉันเองสักหน่อย ฉันพูดและทำอาการกิริยาต่างๆ ตามที่วิญญาณพี่ปูให้ทำแทนเธอ…ฉันเป็นแค่หุ่นกระบอกที่มีผีพี่ปูคอยชักใย อยู่เบื้องหลัง…

พี่ปูพูดอะไรต่อมิอะไรมากมาย ฉันเหนื่อยเหลือเกิน แล้วสติก็ดับวูบ

เมื่อฟื้นอีกที ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านปิ่น แถวๆ ลาดพร้าวนั่นแหละ ไม่ต้องมีใครเล่าซ้ำฉันก็รู้ว่าตัวเองโดนผีเข้า เพราะตลอดเวลาของการเข้าสิงฉันรู้สึกตัวตลอด ซ้ำร้ายยังมองเห็นผีพี่ปูด้วย…นี่เองที่เรียกว่าผีเข้า! ผีพี่ปูไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างฉัน เธออยู่ใกล้และครอบงำฉันอย่างสมบูรณ์!

ดูเหมือนการเข้าสิงให้ฉันเป็นร่างทรงคราวนั้น จะทำให้เธอระบายความในใจจนหมดเปลือกและหายห่วง วิญญาณพี่ปูจึงไปสู่สุคติ ห้องนอนมรณะไม่เยือกเย็นอีกต่อไป และไม่มีใครเห็นผีพี่ปูอีกเลย

มีก็แต่ฉันและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นที่ยังผวาไม่หาย และกลัวผีอย่างฝังจิตฝังใจไปชั่วชีวิต!


ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก