เอก เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากปีศาจสยองขวัญ
สมัยเด็กผมอยู่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เมืองแห่งกล้วยไข่และกระยาสารทอันขึ้นชื่อลือชาที่สุดของเมืองไทยนั่นแหละครับ
ครั้งนั้นบ้านเมืองยังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้ ชาวบ้านยึดอาชีพทำไร่ทำนา
ทำสวนและหาของป่าขาย พวกผู้หญิงที่เสร็จจากงานบ้านก็ทำสวนผัก
ทอผ้าที่ใต้ถุน บ้างก็มีฝีมือทางจักสาน ทำกระจาด กระบุง ตะกร้าสวยๆ
เอาไว้ใช้เองบ้าง ขายบ้าง
พูดกันโดยรวมแล้ว ถือว่าชาวบ้านอยู่ในฐานะพออยู่พอกิน ไม่มีอะไรเดือดร้อน
วัฒนธรรมของพวกเราคล้ายคลึงกับคนไทยภาคกลางส่วนใหญ่ มีทั้งมอญ ลาว
พวนและจีน ผสมกลมกลืนแทบแยกไม่ออก นับถือผีบรรพบุรุษ
เชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายจะคอยคุ้มครองลูกหลานตลอดไป
เรื่องผีที่น่ากลัวมากคือผีของคนที่ออกลูกตาย หรือเรียกว่าตายทั้งกลมนั่นเอง!
บางปีมีคนออกลูกตายถึง 2-3 ราย เพราะการแพทย์ยังไม่เจริญ
ส่วนมากจะอาศัยฝีมือหมอตำแยชื่อป้าอบ
คนท้องแก่ก็มักจะเจ็บท้องใกล้คลอดลูกตอนกลางคืนเสียด้วย
เดือดร้อนป้าอบต้องถูกปลุกกลางดึก
คว้าตะกร้าเครื่องใช้ไม้สอยราวกับล่วมยาของแพทย์
กระวีกระวาดไปทำหน้าที่นางผดุงครรภ์ หรือสูตินรีแพทย์โดยด่วน
ปีหนึ่งมีข่าวลือว่าพญามัจจุราชจะมาเอาชีวิตเด็กๆ ไปเมืองผีถึง 7 คน!
บ้างก็ว่าครบรอบปีอาถรรพณ์
บ้างก็เชื่อว่ามีวิญญาณบาปหลบหนีจากนรกมาเกิดในเมืองมนุษย์
เทพเจ้าแห่งความตายกริ้วโกรธมาก จึงติดตามมา
กระชากวิญญาณกลับแดนอเวจีตามเดิม
ในเวลาไล่ๆ กัน มีคนตั้งท้องถึง 2 ราย คือน้าสวยกับน้าวิไล!
บ้านไหนมีการตั้งท้อง
ใกล้จะคลอดลูกบ้านนั้นก็จะตระเตรียมข้าวของที่จำเป็นเอาไว้อย่างพรักพร้อม
คือพ่อบ้านจะตัดไม้สะแกมาตากแดด แล้วซ้อนกันเป็นกองๆ สำหรับใช้ในการอยู่ไฟ
นอกจากนั้นยังตัดกิ่งพุทราหรือไผ่มาสะไว้ตามรั้วบ้าน เพื่อป้องกันภูตผี
เช่น ปอบหรือกระสือ เข้ามากินเด็กอ่อนเพราะกลิ่นคาวเลือดดึงดูดใจ
น้าสวยถึงเวลาคลอดลูกก็เกิดเรื่องน่าสยองขวัญขึ้นโดยไม่มีใครนึกฝัน!
นั่นคือแกเจ็บท้องร้องโอดโอยตั้งแต่กลางดึกจนรุ่งเช้า
ป้าอบและเพื่อนบ้านช่วยกันข่มท้องแต่ก็ไร้ผล
เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของน้าสวยดังบาดลึกเข้าไปถึงหัวใจของทุกคน
จริงๆ ครับ
ชาวบ้านมาดูกันหนาตา ประสงค์จะช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
มีเสียงซุบซิบกันว่าจะโดนอาถรรพณ์หรือเปล่า?
บางคนบอกได้ยินเสียงนกแสกบินผ่านหลังคา ร้องแซ้กๆ น่าขนหัวลุกไปด้วย
แต่บางคนก็บอกว่าเป็นธรรมดาของท้องแรกที่มักจะคลอดยาก
ทั้งป้าอบและผู้ช่วยเหงื่อตกไปตามๆ กัน สั่งให้น้าสวยเบ่งเต็มที่
แต่สิ่งที่โผล่ออกมาจากท้องทำให้ทุกคนใจหายวาบเพราะเป็นเท้าเล็กๆ
ข้างหนึ่งบ้าง สองข้างบ้าง บางครั้งก็โผล่มือออกมาโบกไหวๆ
ราวกับจะล้อหลอกอย่างน่าสยองขวัญ
เสียงน้าสวยร้องกรี๊ดดดด...เป็นครั้งสุดท้าย ทารกเจ้ากรรมหลุดออกจากท้องมาได้ก็สิ้นลมปราณทั้งแม่และลูก
ฝังศพน้าสวยเสร็จก็ถึงคราวน้าวิไล!
บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความเยือกเย็นน่าวังเวงใจ หมูหมาโก่งคอหอนระงม
ราวกับพวกมันมองเห็นอะไรบางอย่างที่น่าเกลียดน่ากลัวอย่างเหลือประมาณ
ถึงแม้ท้องน้าวิไลจะเป็นท้องที่สอง
แต่กลับทำให้ทุกคนถึงกับอ้ำอึ้งตะลึงตะไลไปตามๆ กัน
เมื่อป้าอบแจ้งข่าวร้ายว่า...เด็กตายในท้องแม่เสียแล้ว!
แถมยังน่าขนลุกขึ้นไปอีกเมื่อท้องน้าวิไลโป่งขึ้นยุบลง
ราวกับเด็กที่ตายแล้วจะพลิกตัวไปมาอยู่ในท้องกระนั้น!
เสียงน้าวิไลร้องครางว่าช่วยด้วยๆ ป้าอบหน้าดำคร่ำเครียด
บอกเสียงเหี้ยมๆว่าศพเด็กมันแรงเหลือเกิน
ต้องใช้อาคมช่วยให้ออกจากร่างเร็วๆไม่งั้นแม่เด็กจะมีอันตราย
ป้าอบทำพิธีด้วยการเอาด้ายมาจับเป็นมงคล 7 เส้น
แล้วเสกคาถาพึมพำก่อนจะม้วนให้น้าวิไลกินกับน้ำมนต์ซึ่งเสกคาถาเช่นกัน
เพื่อให้มงคลคลายในท้องแม่ แล้วสวมคอลูกที่ตายในท้อง
ป้าอบร่ายคาถาเร็วปรื๋อแล้วเป่าลงที่กระหม่อมน้าวิไล ไปยืนอยู่ใกล้ๆ
ศีรษะแล้วกระทืบเท้าอย่างแรงสามครั้ง
น้าวิไลร้องกรี๊ดสุดเสียง...ทารกที่ตายก็หลุดผลัวะออกมา!
ซากเละๆ ของศพเด็กเน่าเหม็นสุดขีดจนผู้คนแตกกระเจิง ฝูงหมาเห่าขรม
ยอดไม้ไหวซ่าเหมือนเสียงใครหัวเราะครืนใหญ่ด้วยความสาสมใจอย่างเหลือประมาณ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ไชยา เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรมผีสิง ผมเป็นคนเชียงรายโดยกำเนิด สมัยหนุ่มใช้ชีวิตร่อนเร่ไปตามอำเภอใจ จนมาปักหลักทำงานในอู่ซ่อมรถยนต์ที...
-
ครูดาว เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเผชิญปีศาจบ้ากาม สมัยสาวๆ ฉันอยู่ห้องเช่าในซอยองครักษ์ บางกระบือ เพื่อนร่วมห้องคือพิสมัย สาวเมืองเลย ผ...
-
ยังมีเรื่อง ผี อยู่เรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในรั้ววังสมัยรัชกาลที่ 5 ครั้งที่พระองค์ท่านย้ายวังมาประทับที่พระราชวังดุสิต ในรัชสมัยของพร...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น