วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

ผี เรื่องผี เรื่องแปลก ผีเข้ามีจริงไหม






วันนี้ไปอ่านพบเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนไทยทั่วไป คือ เรื่องผีเข้ากับของขึ้นมีจริงไหม  คุณสวยอยู่ลึกๆ  [ไม่รู้ว่าลึกระดับไหน] เล่าเรื่อง ดังนี้

ผู้เช่าห้อง 106 ผัวเมีย ทะเลาะกัน ผัวกินเหล้าเมามายกลับมาเจอเมีย ยืนด่าตรงทางเดินกลาง ไม่ได้ด่ากันในห้องนะ เสียงด่าจึงดังคับตึก (ตึกมี 5 ชั้น)

ด่าอยู่นาน ผัวทนไม่ไหวมั้ง ถอดเสื้อ ลากเมียเข้าห้อง แล้วขึ้นค่อม บีบคอเมีย

ตรงนี้ ผมอ่านแล้ว ทีแรกนึกว่า “ผัวจะอึ้บเมียเพื่อให้เลิกด่า” เพราะ เห็นมีคำว่า “ถอดเสื้อ” และ “ลากเมียเข้าห้อง” แต่สรุปแล้วไม่ใช่

มันทำไมไม่ “บีบคอเมีย เสียตรงนั้นเลย”  เสือกถอดเสื้อและลากเข้าห้องทำไม ทำให้เรามาต้องจินตนาการ เสียพลังงานสมองไปเปล่าๆ

เมียก็ร้อง ตะโกนให้คนอื่นช่วย ทั้งเสมียนเอย คนอื่นๆ เข้าไปช่วยกัน ผัวเขาชื่อหนึ่ง  พอคนเข้าไปช่วยผัวก็ชี้หน้าแล้ว บอกว่า กูไม่ใช่ไอ้หนึ่ง

ผู้ชาย 3-4 คนเข้าไปแยกเขาออกจากเมีย ตัวผัวปล่อยมือจากคอเมียแล้วมายกตัวพี่ผู้ชายคนนึง ลอยขึ้นเลย มือทั้งสองจับตรงใต้รักแร้พี่ผู้ชาย แล้วจับยกขึ้นเหนือพื้น ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน

พี่ผู้ชายคนนี้หนักประมาณ 70 -80 โลได้ แต่พี่ผู้ชายมีสติดีมาก แกก็ท่องบทสวดอะไรสักอย่าง สักพักผัวทรุดลง

ทรุดแป๊บๆ ก็กลับมาอีก เป็นอยู่อย่างนี้นานเป็นชั่วโมง จึงสงบ

ทุกคนลงความเห็นว่าแก ของขึ้น เพราะแกสักยันต์ ไม่รู้อะไรต่ออะไร เต็มตัวไปหมด พอมาเจอคำด่าแบบหยาบคายของเมียเข้าแกเลยขึ้น ว่างั้น

อย่างไรก็ดี  หลังจากเสวนากับคนให้ความคิดเห็นพักหนึ่ง คุณสวยอยู่ลึกๆ  [ไม่รู้ว่าลึกระดับไหน] ก็สรุปว่า 

อืม ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบสักยันต์อะไรพวกนี้หรอกค่ะ เพิ่งเคยเจอคิดว่าคงจะเป็นอย่างที่คุณบอก เขาอาจจะโมโหเมีย จนขาดสติ

ผมขอยืนยันว่า “เรื่องผีเข้านี้ ทำได้จริง”  และถ้าเข้าแบบนี้ ส่วนใหญ่ของจริง  ถ้าไปเข้าทรงเพื่อหารายได้นั้น  จริงมั่ง ไม่จริงมั่ง

ผีหรือเจ้า มันจะมาเข้าอะไรกันหนักกันหนา  มีลูกค้ามารอยู่ ผีไม่เข้า  คนทรงก็ต้องทำเป็นผีเข้านั่นแหละ 

ถ้ามีลูกค้า แล้ว ผีไม่ตามนัดบ่อยๆ ต่อไปก็ทำมาหากินไม่ได้

วิพากษ์วิจารณ์การไม่เชื่อก่อน

คนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มักจะเชื่อวิทยาศาสตร์ และไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้  แต่มีเหตุผลหลายประการที่พวกนี้ อธิบายไม่ได้

1) การปฏิเสธว่าชื่อ “หนึ่ง” โดยปกติคนธรรมดา ไม่ว่าจะโมโหใครขนาดไหน ไม่ว่าจะบีบคอ บีบ ฯลฯ ของใครอยู่ก็ตาม  ไม่เห็นจำเป็นจะต้อง “ปฏิเสธชื่อที่คนอื่นเรียก”

การปฏิเสธชื่อคนอื่นนี่ เป็นธรรมเนียมของผีเลยทีเดียว  เพื่อประกาศว่า “กูมีตัวตน” เหมือนกันนะโว้ย ทำนองนั้น

2) กำลังที่เพิ่มขึ้น ขนาดแชมป์ยกน้ำหนักยังอายนั้น มันมาจากไหน

กรณีนี้ ไม่ได้เกิดไฟไหม้ แบบตกใจจนแบกโอ่งได้ แต่เกิดจาก “ความโมโหที่เมียด่า”

3) ทำไม เมื่อมีการสวดมนต์ หรือท่องคาถา คุณไอ้หนึ่งจึงสงบไปพักหนึ่ง แล้วก็เกิดอาการขึ้นมาใหม่ จนกระทั่งผีเหนื่อย แล้วก็ไปตามทางของผีมัน

หลักการของผีเข้าในวิชาธรรมกาย

เรื่องผีเข้า หรือการทรงเจ้าเข้าผีนี้ คนไทยรู้จักกันดี รู้จักกันมานานแล้ว  ผู้อ่านหลายๆ คนนี่ ก็น่าจะเคยเป็นลูกค้าของพวกนี้มาก่อน  หรือก็ต้องมีประสบการณ์เห็นผีเข้ามาก่อน

แต่ยังไม่มีใครที่สามารถอธิบายได้อย่างเป็นวิชาการและมีเหตุผลได้อย่างที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอน

คนเรานั้นประกอบด้วยกายกับใจ  ใจมี 4 อย่าง ดังนั้น องค์ประกอบพื้นฐานของคน จึงมี 5 อย่าง  ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า ขันธ์ 5

ศัพท์ภาษาบาลีก็คือ รูป [เวทนา + สัญญา + สังขาร + วิญญาณ]  ใจทั้ง 4 อย่างนั้น มีการแปลมาเป็นภาษาไทย คือ [ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ+ จำ + คิด + รู้]

การแปลของบนนั้น เป็นการแปลผิด  ผิดมาเป็นพันๆ ปี โดยไม่มีใครเฉลียวใจ  หลวงพ่อวัดปากน้ำ แปลไว้ ดังนี้ [เห็น + จำ + คิด + รู้]

ขอให้พิจารณาการแปลของหลวงพ่อวัดปากน้ำให้ดี จะเห็นว่า ข้อความนั้น “สอดคล้องกัน”  คำแปลของพุทธวิชาการทั้งหลาย ไม่สอดคล้องกัน

โง่กันมาเป็นพันปี  โง่กันเป็นหมื่นเป็นแสนคน  เดี๋ยวนี้ก็ยังโง่กันอยู่

มาเข้าเรื่องผีเข้ากันต่อ  เมื่อผีต้องการที่จะควบคุมใคร หรือเข้าไปสิงใคร คุณผีตนนั้น จะต้องเอาใจของผี คือ [เห็น + จำ + คิด + รู้] ไปซ้อนของคนให้สนิทเป็นใจเดียวกัน

แล้วคุณผีก็ควบคุมร่างกายของคนถูกผีเข้าได้ ตามหลักการของพุทธพจน์ คือ “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว”

ในทางวิชาธรรมกายนั้น ถ้าเราต้องการจะพูดคุยกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเทวดา พรหม อรูปพรหม ผี เปรต แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน  ก็ต้องทำตามหลักการดังกล่าว

http://drmanasanswers.blogspot.com/2013/07/blog-post_24.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก