วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผี เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ ขนหัวลุกจากเด็กตกน้ำตาย

สายป่าน เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเด็กตกน้ำตาย

เดือนเมษายนของทุกๆ ปีได้ข่าวว่ามีเด็กๆ ตายมากที่สุด ส่วนใหญ่คือตกน้ำตาย และอุบัติเหตุภายในบ้าน เช่น ถูกไฟดูด ตกจากที่สูง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ มากๆ ค่ะ

สาเหตุมาจากช่วงปิดเทอม เด็กๆ อยู่กับบ้าน โดยที่พวกผู้ใหญ่ไม่มีเวลามาคอยดูแลแกทั้งวี่ทั้งวัน อย่างเพื่อนบ้านของดิฉันในย่านภาษีเจริญนี่ล่ะ พวกเขาหาเช้ากินค่ำ ยายทำขนม แม่ขายผัก พ่อขับแท็กซี่ ปิดเทอมทีก็จะทิ้งลูกๆ หลานๆ เป็นโขยงให้อยู่กันเอง

แม้ฐานะจะแตกต่างแต่พวกเราก็เข้ากันได้ดี เวลาคุณแม่ทำกับข้าวอร่อยๆ ก็มักจะแบ่งไปให้บ้านนั้นบ้าง ส่วนยายขาวก็จะตอบแทนโดยเอาขนมกล้วย ขนมตาลมาให้ที่บ้านดิฉัน

ยายขาวเป็นคนน่ารักค่ะ ขจี-ลูกสาวแกก็นิสัยดี ขยันขันแข็งจนน่าสงสาร แม้ขจีโชคดีที่ได้สามีเป็นคนทำมาหากิน แต่ชีวิตก็ไม่วายลำเค็ญ...แหม! ลูกเธอยังกับกระต่าย เบ่งออกมาตั้ง 5 คน

คนโตเป็นเด็กชายชื่อจ้อย คนสุดท้องคือแจ๊ก อายุแค่ 3 ขวบเศษ ยังไม่เข้าโรงเรียนเลย ปกติยายจะพาไปขายขนมที่ตลาดด้วยกัน แต่พอปิดเทอมพวกพี่ๆ เขาอยู่บ้าน แจ๊กน้อยก็อยู่กับเขาด้วย

ทุกเย็น เวลาดิฉันกลับบ้าน จะได้ยินเสียงเด็กๆ เล่นกัน คือมีเด็กๆ จากบ้านอื่นมาเล่นที่บ้านยายขาวเพราะมักได้กินขนม และบ้านยายขาวก็อยู่ติดริมคลอง มันน่าสนุกจะตาย เด็กๆ จะโดดน้ำกันเล่นตูมๆ ล้วนแต่ว่ายน้ำเก่งกันทั้งนั้น ยกเว้นแต่แจ๊กรูปหล่อ-ยอดดวงใจของ ยายขาว

แกเป็นเด็กน่ารักมาก ไม่ซนไม่โยเยเลย เจอดิฉันแต่ละทีก็จะเอานิ้วเข้าปาก ยิ้มเอียงอายรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณก็ดียิ่งกว่าพวกพี่ๆ ทุกคน

บ่ายวันเสาร์ที่ดิฉันหยุดอยู่บ้าน กำลังเอาที่นอนหมอนมุ้งออกมาตากเพราะแดดแรงดี ก็พลันได้ยินเสียงจุ๋ม เด็กหญิงที่เป็นพี่สาวแจ๊กร้องเสียงลั่นว่า...แจ๊กหาย!!

เอาล่ะซิ...เด็กก็คือเด็ก พวกแกเล่นกันเพื่อนๆ ต่างคนต่างก็เพลิน จ้อยและโจอยู่ในกลุ่มผู้ชาย ส่วนจุ๋มกับจ้าก็เล่นอยู่อีกทาง...แจ๊กหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้

ดิฉันกับสาวใช้ชะโงกข้ามรั้วไปดู จ้อยกับโจเข้ามามองหาแล้ววิ่งไปตามยายที่ตลาด

พวกเราหาแจ๊กกันวุ่นไปหมด ยายขาวตกใจมาก ไม่รู้ว่ามีคนมาลักขโมยหรือหลานตกน้ำตาย ตั้งแต่บ่ายจนพลบค่ำยังหาแจ๊กไม่เจอ เพื่อนบ้านช่วยกันดำน้ำงมหา ทว่าไม่มีวี่แววอะไรเลย

ดึกดื่น ผู้คนที่บ้านยายขาวไม่เป็นอันหลับอันนอน เพราะความทุกข์แสนทุกข์ค่ะ!

แสงไฟส่องไปตามลำน้ำด้วยความแน่ใจว่าแจ๊กคงจะจมน้ำตาย ไม่มีทางที่แจ๊กจะเดินไปไหนเองโดยเพื่อนบ้านไม่เห็น เพราะหน้าบ้านยายขาวมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว ผู้คนก็ไม่ใช่น้อย บางคนนั่งกินไปคุยไป ถ้าแจ๊กออกจากประตูบ้าน ไม่ว่าจะมีใครอุ้มหรือเดินออกมาเอง คนเหล่านั้นก็ต้องเห็น

ตีสอง ดิฉันลุกเข้าห้องน้ำ เสียงยายขาวร้องไห้ และพร่ำบ่นว่าเป็นความผิดของแกเอง...น่าจะพาหลานไป ด้วยกัน!

ดิฉันมองจากหน้าต่างชั้นบนไปที่บ้านแก...อะไรนั่น? แจ๊กนั่งอยู่ข้างหลังยายขาวนี่นา! เออ...แล้วยายขาวร้องไห้ทำไม?

แจ๊กกลับมาแล้ว นั่งตาแป๋วเชียว ดิฉันอดโล่งใจไม่ได้ ยายขาวคงตกใจเสียขวัญมากถึงจะได้หลานกลับมาก็ยังผวากับเหตุการณ์น่าอกสั่นขวัญแขวนตลอดวันนั้นอยู่ ไม่รู้หาย

ขณะที่คิดเพลินๆ เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นสบตากับดิฉัน แกยิ้มน้อยๆ และยกมือป้อมๆ ขึ้นโบกให้ ดิฉันเผลอโบกตอบ...เฮ้อ! โล่งอกซะที คืนนี้หลับสบาย พรุ่งนี้ค่อยไปแสดงความยินดีรับขวัญพวกเขาแล้วกัน

รุ่งเช้าดิฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องไห้โฮ ระงมดังลั่น...อะไรกันนี่? ดิฉันตะกายจากที่นอน ลุกตรงไปที่หน้าต่าง...และแล้วก็ได้เห็นภาพนั้นเต็มตา

นั่นคือ ชายคนหนึ่งกำลังอุ้มร่างแข็งทื่อของเด็กชายตัวกระจ้อยร่อยขึ้นมาจากน้ำ!

ภาพที่เห็นทำให้ดิฉันงงงัน สับสน เมื่อรีบแต่งตัวลงไปก็ได้ความว่า เมื่อคืนนี้ตอนดึกพวกเขาจุดธูปบอกเจ้าที่ หรือสิ่งใดก็ตามแต่ให้ได้ร่างของแจ๊กกลับมา เพราะแน่ใจว่าแกตกน้ำตาย

ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า แจ๊กที่ดิฉันเห็นเป็นวิญญาณ...ไม่ใช่คน!

ตั้งแต่นั้นมา ตลอดเวลาหลายเดือน ดิฉันกลัวแจ๊กสุดขีด เวลานอนต้องให้สาวใช้มาอยู่เป็นเพื่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปความกลัวก็เลือนรางจางหาย เหลือแต่ความเวทนา และเรื่องเล่าที่น่าพิศวงเป็นประสบการณ์ของตัวเอง

แจ๊กตายไป 6-7 ปีแล้ว ถ้าแกอยู่ป่านนี้คงจะมีอายุราว 10 ขวบ...ความตายของแกทำให้พ่อแม่บ้านอื่นๆ แถวนี้ดูแลลูกเต้าอย่างใกล้ชิดขึ้นอีกพะเรอ

ส่วนดิฉันน่ะคงจะไม่มีวันลืมสายตาที่จ้องมองขึ้นมา รอยยิ้มและมือน้อยๆ ที่โบกให้...นึกทีไรก็ขอให้แกไปสู่สุคติ แกเป็นวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่น่ากลัว แต่ทำให้ขนหัวลุกเกรียวเชียวล่ะค่ะ!

ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก