วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผี เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ โรงแรมผีสิง

ญาดา เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรมผีสิง

ดิฉันไม่ค่อยได้ไปเปิดหูเปิดตาที่ต่างจังหวัด นอกจากจะใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว สาเหตุสำคัญที่กล้ายอมรับอย่างไม่อายก็คือ...กลัวผีค่ะ!

คิดดูซิคะว่าถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ต้องนอนโรงแรม ไม่ว่าจะไปกับญาติมิตรสนิทสนมแค่ไหนก็ต้องนอนโรงแรมวันยังค่ำ...ไม่ว่าจะโรงแรมชั้นหนึ่ง หรูหราขนาดไหนก็ตาม เมื่อนึกถึงสภาพต่างๆ แล้วขนลุกขนพองยังไงบอกไม่ถูก

ใครต่อใครล้วนแต่เคยมาอยู่ มาหลับนอน รวมทั้งกิจกรรมอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย และไม่ทราบว่าเคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่? รุนแรงน่ากลัวมากน้อยเพียงใด? นอกจากจะไม่สนิทใจแล้วยังรู้สึกผิดที่ผิดทางด้วยค่ะ!

เคยมีประสบการณ์มาก่อนเพราะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ นับครั้งได้ แต่ยังไม่เคยนอนคนเดียวสักครั้ง! อ้อ...ไม่คิดจะลองด้วยค่ะ ขนาดนั้นยังนอนไม่ค่อยหลับ

จนกระทั่งครั้งล่าสุด ดิฉันไปเที่ยวหัวหินกับสามีเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง...

เราเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน ยอมรับว่ายังมีอารมณ์โรแมนติกตามประสาคนที่รักกัน...ไปไหนก็ไป ยิ่งเป็นสถานตากอากาศชายทะเลระดับคลาสสิค โดยเฉพาะไปกับคนที่เรารักด้วยแล้ว...เรื่องกลัวผีก็กลายเป็นเรื่องรองๆ ลงไปเลย

แต่คืนแรกเท่านั้นเอง ดิฉันก็เจอดีเข้าอย่างจัง!

เราได้ห้องพักของโรงแรมชายทะเล แม้ว่าจะค่อนข้างเก่าแต่ก็สะอาดสะอ้านมีต้นไม้ใหญ่น้อยร่มครึ้ม ครั้นเราลงไปเดินเล่นที่ชายหาดก็รู้สึกเพลิดเพลินกับเสียงคลื่นเสียงลม มองดูหนุ่มสาวเดินคลอคู่กันผาสุก เด็กๆ วิ่งเล่นไล่กัน และบ้างก็ขุดดินขุดทราย อยู่ใกล้ๆ คุณแม่ ส่วนคุณพ่อถ่ายวิดีโออย่างตั้งอกตั้งใจ

หลังจากออกไปหาอาหารที่ตลาด เราก็กลับมาพักผ่อนหลับนอน กะโปรแกรมที่จะไปเที่ยวน้ำตกป่าละอู ไม่ต้องกลัวภัยจากน้ำป่าเหมือนฤดูฝน...

สามีหลับสนิทอยู่เคียงข้าง ได้ยินเสียงหายใจดังสม่ำเสมอ ส่วนดิฉันหลับตาอยู่ในความมืดเพราะเราชอบดับไฟนอนตรงกัน...นึกแปลกใจว่าน่าจะหลับตั้งนานแล้วนะ แต่ทำไมถึงไม่รู้สึกง่วงนอนเสียเลย

นอกจากเสียงคลื่นเสียงลมที่ดังแว่วมา สรรพสิ่งก็เงียบเชียบจนแทบจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ แอร์เย็นฉ่ำกำลังสบาย...พรุ่งนี้ไปเที่ยวน้ำตกป่าละอูแล้วจะไปไหนอีกนะ ตอนกลางวันกินอาหารร้านไหน? ห้องนี้เคยมีเหตุการณ์น่ากลัวเกิดขึ้นมาก่อนไหม?

อ้อ...มีผีหรือเปล่าหนอ?

ดิฉันรู้ว่าตัวเองกำลังคิดฟุ้งซ่าน พยายามข่มใจหลับเต็มที่ด้วยการนับหนึ่งถึงสิบซ้ำไปซ้ำมา...พอความคิดวอกแวกก็กลับมาเริ่มต้นใหม่หลายครั้ง...จนกระทั่งความรู้สึกเริ่มเคลิบเคลิ้มเข้าสู่ภวังค์...

เสียงหอบหายใจแรงๆ ดังขึ้นใกล้ๆ หูนี่เอง

สามีเหรอ...ไม่ใช่นะ! มันดังมาจากอีกด้านของเตียงข้างๆ ต่างหากล่ะ แต่มันว่างเปล่านี่นา! ดิฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่า แต่จำได้ว่าค่อยๆ เบือนหน้าไปมอง

คุณพระช่วย! หญิงชายคู่หนึ่งกำลังกอดรัดกันเนบแน่น เรือนร่างเปลือยเปล่าเหมือนทารกแรกเกิดทั้งคู่ แม้ว่าจะมีเพียงแสงรางๆ ส่องผ่านม่านเข้ามา ก็ยังเห็นชัดว่าเขากับเธอกำลังปล่อยอารมณ์ให้โลดแล่นไปกับไฟเสน่หาไม่ยับยั้ง

วูบหนึ่ง ดิฉันชาไปทั้งตัว แขนขาแข็งทื่อหนักอึ้งราวท่อนเหล็กเมื่อเพิ่งนึกได้ว่า...หนุ่มสาวคู่นั้นเข้ามาแสดงความพิศวาสเผ็ดร้อนในห้องพักของเราได้ยังไงกัน?

เสียงหอบหายใจไม่หยุดหย่อน ดังขึ้น...ดังขึ้นประหนึ่งกลายเป็นเสียงกลองที่กำลังกระหน่ำอยู่ในทรวงอกดิฉัน เล่นเอาเหงื่อกาฬแตกซิก ปากคอแห้งผากไปหมด แม้ว่ายังขยับเขยื้อนเนื้อตัวไม่ได้เลย

นัยน์ตาเบิกค้าง ลืมโพลง อยากจะร้องเรียกสามีแต่ก็อ้าปากไม่ขึ้น เหงื่อหยดเผาะ กลั้นลมหายใจ กระเดือกน้ำลายลงคออย่างยากเย็น อยากหลับตา อยากร้องไห้ แต่เสียงหอบหายใจยิ่งดังขึ้นราวกับจะกระหึ่มไปทั้งห้อง...

เกือบพร้อมๆ กับที่หนุ่มสาวคู่นั้นหันขวับมามองดิฉันในพริบตา!

แก้วหูแทบจะลั่นเปรี๊ยะเพราะเสียงกรีดร้องของตัวเอง สามีลุกพรวดขึ้นนั่งเปิดไฟหัวเตียง ดิฉันร้องไห้โฮโผเข้ากอดเขา หลับตาชี้ไปที่เตียงนั้นแต่สามีบอกว่าไม่มีอะไร

ไม่มีน้ำตกป่าละอูหรือที่ไหนอีกแล้วค่ะ รุ่งขึ้นเราก็บึ่งกลับกรุงเทพฯ ทันที...ต่อไปนี้สาบานว่าจะไม่ยอมไปนอนโรงแรมไหนๆ อีกแล้ว ขนหัวลุกค่ะ!

ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

คลังบทความของบล็อก